ประโยชน์ของน้ำพลังแม่เหล็ก (MagneticTreatmentWater )

1. ป้องกันโรคกระดูกพรุน (Osteoporosis)
เพราะคุณสมบัติที่เป็นด่างของน้ำดังกล่าวยู่แล้ว ทำให้ร่างกายไม่ต้องเสียเวลาเพื่อดึง แมกนีเซียม และแคลเซียมออกมาจากกระดูกไปเป็น Buffer กับกรดในร่างกาย จนทำให้เนื้อกระดูก (Bone Mass) ละลายออกมาเป็นหย่อม ๆ เกิดรูพรุน บาง ความแน่นของกระดูก (Bone Density) ลดลง นอกจากนี้ยังป้องกันไม่ให้ฟันผุอีกด้วย (Bone Caries) เพราะผิวฟันชั้นนอก (Enamel) ไม่ต้องสูญเสียแมกนีเซียม และแคลเซียม

2. ป้องกันโรคหัวใจ ( Heart Disease ) ในชีวิตประจำวัน ร่างกายจะสร้างความเป็นกรดอยู่เกือบตลอดเวลาจากระบบเมตาบอลิซั่ม (Metabolism) จากมลภาวะ (Pollution) และจากกินอาหารโปรตีนสูง (High Protein Diet ) ทำให้ต้องดึงแมกนีเซียมกับแคลเซียมออกจากกระดูก และบางครั้งจากเซลล์กล้ามเนื้อของหัวใจมาคอยผสมเพื่อให้ค่าความเป็นกรดด่าง ของร่างกายกลับมาสมดุลที่ pH 7.4 ตลอดเวลา (ค่า pH ในเลือด ร่างกายจะยอมให้อยู่ระหว่า pH 7.35-7.45 น้อยไปหรือมากไปกว่านี้จะทำให้ระบบต่างๆ ในร่างกายผิดปกติ แต่โอกาสที่จะเกิน 7.45 แทบไม่มีเลย นอกจากการใช้ยาผิด
แมกนีเซียม (Magnesium) จำเป็นที่สุดในการสร้างพลังงานระดับเซลล์ (Cellular Energy) และยังทำให้สารพลังงาน เอ ที พี ( Adenosine Triphosphate หรือ ATP ) แตกตัวมาเป็นสาร เอ ดี พี (Adenosine Diphosphate ) บริเวณไมโตคอนเดรีย ( Mitochondria อยู่ภายในเนื้อเซลล์ Cytoplasm) จึงเกิดพลังงานขึ้นเพื่อให้เซลล์นำไปใช้ทำงานต่อไป การที่แมกนีเซียมถูกดึงมาจากเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจอยู่เรื่อย ๆ โดยไม่มีเสริมกลับเข้าไป เป็นผลให้เมื่อถึงจุดหนึ่ง ( Last Straw ) แมกนีเซียมที่อยู่ในเซลล์ไม่พอไปสร้างพลังงาน เอ ที พี เซลล์ของกล้ามเนื้อหัวใจจะหยุดทำงานเพราะขาดเชื้อเพลิง และหัวใจจะหยุดเต้น

3. ป้องกันโรคหัวใจและสมองขาดเลือด (Ischemia) เมื่อความเหนียวและความข้นของเลือด ลดลงและโมเลกุลของน้ำที่ประกอบเป็นกลุ่มเรียงตัวกันอย่างมีระเบียบจึงทำให้ เลือดไหลเวียนได้สะดวก ปริมาณมากขึ้นนอกจากนี้น้ำในเลือดที่มาหล่อเลี้ยงเซลล์ยังมีสารอาหาร เอนไซม์ และออกซิเจนละลายอยู่อย่างเพียงพออีกด้วย เนื่องจากแรงตึงผิวของน้ำในเลือดต่ำ ทั้งยังสามารถซึมเข้าเซลล์ของอวัยวะต่างๆ ได้โดยง่าย

4. ร่างกายแข็งแรง และมีภูมิต้านทานโรคสูงขึ้นเลือดซึ่งใช้น้ำเป็นองค์ประกอบถึง 92 เปอร์เซ็นต์ น้ำที่ดีจึงสามารถพาสารอาหาร เอนไซม์ ฮอร์โมน และออกซิเจน มาให้กับเซลล์ต่าง ๆ อย่างพอเพียง การไหลเวียน (Blood Circulation) ก็สะดวก เซลล์จะแก่ช้าลง การต้านทานโรคเข้มแข็ง แผลหรือการอักเสบหายเร็วขึ้น ยาปฏิชีวนะสามารถถูกดูดซึมเข้าเซลล์ต่าง ๆ พร้อมกับน้ำโครงสร้างเล็กได้ ยาเข้าไปปริมาณสูงกว่าน้ำชนิดอื่น ก่อทั้งประโยชน์และเกิดประสิทธิภาพที่จะหยุดการเจริญเติบโตของเชื้อ จุลินทรีย์ได้อย่างแน่นอน
ในกรณีที่เป็นแบคทีเรียชนิดที่ไม่ชอบอยู่ในออกซิเจน ซึ่งมักอันตรายต่อมนุษย์ ก็จะหยุดแบ่งตัวและอ่อนแอลง เพราะน้ำพลังแม่เหล็กมีออกซิเจนละลายอยู่สูงทำให้สิ่งแวดล้อมไม่เหมาะกับ เชื้อจุลินทรีย์ที่ไม่ชอบ
อากาศจะแพร่พันธุ์ต่อไป

5. น้ำที่ได้รับพลังแม่เหล็ก จะมีรสอร่อย และแก้กระหายน้ำได้เร็ว การที่น้ำมีรสดี เพราะการมีโครงสร้างขนาดเล็ก ต่อมรับรสที่โคนลิ้นรับสัมผัสได้ง่าย เป็นการถูกกระตุ้น สร้างความพอใจแปรสัญญาณที่ออกมาในทางรสดี น้ำที่โครงสร้างขนาดเล็กยังสามารถผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ เข้าเซลล์ของร่างกายได้ง่าย เมื่อเวลาหิวน้ำ ถ้าดื่มน้ำพลังแม่เหล็ก จะแก้กระหายได้เร็วว่าดื่มน้ำชนิดอื่น ทำให้รู้สึกสดชื่นและชุ่มมากกว่าอีกด้วย

6. ป้องกันโรคปวดข้อ (Arthritis) โรคเก๊าท์ (Gout) และโรคนิ่วในไต(Kidney Stone)
เนื่องจากมีคุณสมบัติเป็นด่าง ทำให้ผลึกของกรดชนิดต่างๆ ไม่จับตัว อาทิเช่นกรดยูริค (Uric Acid ) , กรดออกซาลิก (OxalicAcid)ความเป็นด่างของน้ำพลังแม่เหล็กจะไปทำให้สารต่างๆที่ออกฤทธิ์ เป็นกรดทั้งหลายหมด
สภาพ กรดยูริคบริเวณข้อ (Joint) ละลาย ไม่ก่อตัวเป็นผลึกที่แหลมคมฝังตามข้อต่าง ๆ อีกต่อไป ความเจ็บของโรคเก๊าท์อันเกิดจากผลึกแหลม ๆ แทงเนื้อเยื่อก็จะทุเลาลง

7. ป้องกันโรคแห่งความเสื่อมเรื้อรัง (Chronic Degenerative Disease)
โรคแห่งความเสื่อมที่สำคัญ คือ โรคมะเร็ง (Carcinoma) ซึ่งขออธิบายพยาธิสภาพของมันอย่างง่าย ๆ ดังนี้
อนุมูลอิสระ (Free Radical) ที่เกิดขึ้นจากสาเหตุต่าง ๆ ไป ทำให้เซลล์ปกติถูกทำลายโดยปฏิกิริยาห่วงโซ่ โดยโมเลกุลในเซลล์จะถูกแย่งอิเลคตรอนประจุลบ เคยมีอยู่ออกไป ทำให้ตัวมันเองขาดอิเลคตรอนกลายเป็นอนุมูลอิสระตัวใหม่ ซึ่งไม่เสถียร ของปฏิกิริยาห่วงโซ่ อีเลคตรอน ที่แยกตัวออกไปนี้จะปล่อยพลังงานให้เป็นอิสระ(ซึ่งเคยใช้ยึดอีเลคตรอนไว้ )หลุดออกมาจากโมเลกุลและร่างกายควบคุมไม่ได้ พลังงานนี้จึงเที่ยวอาละวาดทำลายเยื่อหุ้มเซลล์ของเซลล์ใกล้เคียง จนเยี่อหุ้มเซลล์เสียหาย ทำหน้าที่ไม่ได้ตามปกติอาจะป็นรู เกิดความพิการ เกลือแร่ภายในเนื้อเซลล์ (Cytoplasm) จะมีสัดส่วนทางเคมีผิดปกติ เพราะมีการรั่วของบางเกลือแร่เช่น โปแตสเซียม ผ่านอออกมาจากเยื่อหุ้มเซลล์ ทำให้ดี เอน เอ (DNA) ในนิวเคลียส (Nucleus) บิดเบี้ยว แบ่งตัวเพี้ยนตามไปด้วย เกิดเป็นเซลล์พิกลพิการชนิดใหม่เรียกว่า เซลล์มะเร็ง
การเกิดอนุมูลอิสระที่พบมากคือสาเหตุมาจากรังสีต่างๆและที่ขาดความสนใจเพราะประมาท
แต่อันตรายใหญ่หลวง คือ รังสีเอกซ์ (X-Ray) การถ่ายเอกซ์เรย์หน้าอก รังสีผ่านร่างกายเพียงวินาทีเดียว อีเลคตรอนกระเด็นหลุดออกมานับล้านตัว พลังงานที่อีเลคตรอนเคยใช้วิ่งรอบโพรตอน(Proton) เปลี่ยนออกมาเป็นพลังงานอิสระที่ไม่มีผู้ใดควบคุมได้ เกิดเซลล์อนุมูลอิสระเป็นล้านเซลล์ นี่คือ ต้นเหตุของโรคมะเร็งโดยเฉพาะเซลล์ของเต้านมจะเกิดการเปลี่ยนแปลงง่ายยิ่งถ้า อายุมากขึ้นความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระจะไม่พอเพียง เช่นวัยหนุ่มสาว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น